ความเคลื่อนไหวการเมืองระดับโลก:การสร้างสมดุลระหว่าง “America First” และ “Japan First” – โมเดลธุรกิจการทูตใหม่ของนายกรัฐมนตรีทาคะอิชิ(24 พ.ย.)
การเยือนเอเชียครั้งนี้ของประธานาธิบดีทรัมป์ มีเป้าหมายชัดเจนคือการ ลดความตึงเครียดทางการค้ากับประเทศสำคัญในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน พร้อมทั้ง ดึงดูดการลงทุนจากภูมิภาคเข้าสู่สหรัฐฯ เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม แนวทางนี้สะท้อนถึง “การทูตเชิงการค้า” ที่เน้นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายหาเสียงของทรัมป์ เช่น การแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้า การสร้างงาน และการฟื้นฟูภาคการผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อใช้เป็น กลยุทธ์รองรับการเลือกตั้งกลางเทอมในปีหน้า
ส่วนนายกรัฐมนตรีทาคะอิชินั้น นอกเหนือจากการมุ่งสร้าง ความไว้วางใจส่วนตัวกับทรัมป์ และเสริมความแข็งแกร่งของพันธมิตรญี่ปุ่น–สหรัฐฯ แล้ว ยังแฝงไว้ด้วยเท่านั้น การต้องการแสดงวิสัยทัศน์เชิงอนาคต ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไปสู่ “ระดับที่สูงกว่าเดิม” อย่างเป็นรูปธรรม.
1. จุดเริ่มต้นของรัฐบาลใหม่
รัฐบาลทาคะอิชิ ซาเนะเริ่มต้นด้วยคะแนนนิยมระดับ 65% และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสูงกว่า 70% ซึ่งเป็นระดับที่สูสีกับ อดีตนายกฯโคอิซึมิที่มีคะแนนนิยมสูงสุด ในบรรดานายกรัฐมนตรีที่เคยมีมาทั้งหมด และสูงกว่า แม้กระทั่ง อดีตนายกฯอาเบะ ที่อยู่ในระดับ 50%
เพียง 1 สัปดาห์หลังเข้ารับตำแหน่ง เธอได้พบปะกับประธานาธิบดีทรัมป์ระหว่างการเยือนเอเชีย และต่อด้วยการประชุมกับผู้นำเกาหลีใต้ จีน และเวที ASEAN/APEC
ผลสำรวจประชาชนกว่า 83% ประเมินเชิงบวกต่อการทูตครั้งนี้
2. การสร้าง “ความไว้วางใจส่วนตัว” และภาพลักษณ์ “ความเท่าเทียม”
นายกรัฐมนตรีทาคะอิชิใช้แนวทางเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะในการสร้างสัมพันธ์กับทรัมป์ โดยมอบคำชื่นชมอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเสนอความร่วมมือเพื่อเปิดมิติใหม่ทางการทูต เธอยกย่องทรัมป์ว่าเป็นผู้มีบทบาทต่อสันติภาพและเสถียรภาพทั้งในเอเชียและโลก พร้อมเสนอชื่อเขาเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ อีกทั้งประกาศตนเป็นผู้สืบทอดแนวคิด “อินโด-แปซิฟิกเสรีและเปิดกว้าง (FOIP)” ที่อาเบะริเริ่ม และแสดงเจตจำนงที่จะยกระดับพันธมิตรญี่ปุ่น–สหรัฐฯ ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น โดยของขวัญที่มอบให้ทรัมป์คือ ไม้กอล์ฟพัตเตอร์ที่เป็นของใช้ส่วนตัวของอาเบะ เพื่อสื่อถึงความต่อเนื่องและความไว้วางใจ.
- ทาคะอิชิใช้ “มรดกทางการเมืองของอาเบะ” เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับทรัมป์ โดยเน้นว่าเธอคือผู้สืบทอดแนวทางของอาเบะ
- ทรัมป์เองย้ำถึงมิตรภาพกับอาเบะและแสดงความเชื่อมั่นในทาคะอิชิ โดยกล่าวว่า “อาเบะเคยชมทาคะอิชิ” และย้ำว่า “พร้อมจะช่วยเหลือเธอเสมอ” ซึ่งเป็นถ้อยคำที่สะท้อนถึงความไว้วางใจและการสนับสนุนที่มีต่อทาคะอิชิในฐานะผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่
- เธอใช้กลยุทธ์การสื่อสารคล้ายทรัมป์: พูดตรง ใช้คีย์เวิร์ดสั้น ๆ และเน้นการแข่งขันเชิงธุรกิจ
- การแสดงออก เช่น การเน้นความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเล่าถึงการที่ทั้งสองนั่งชมการแข่งขันเบสบอล เวิลด์ซีรีส์ทีมดอดเจอร์ส ร่วมกันก่อนการประชุม จากนั้นยังได้ร่วมโดยสาร เฮลิคอปเตอร์ประธานาธิบดี ซึ่งปกติแม้ผู้นำต่างชาติคนสำคัญ ยังไม่สามารถขึ้นได้ และการยืนเคียงข้างกันที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในโยโกสุกะ ภาพลักษณ์ที่นายกรัฐมนตรีทาคะอิชิ ซึ่งมีรูปร่างเล็ก ยืนเคียงข้างประธานาธิบดีทรัมป์อย่าง “เท่าเทียม” ทำให้ภาพลักษณ์ที่สื่อออกมาคือ “การเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ระหว่าง2ประเทศ“
3. การเปลี่ยนแปลงพาราไดม์: จาก “แลกเปลี่ยนผลประโยชน์” สู่ “การค้าระดับเท่าเทียม”
เป้าหมายหลักของการประชุมคือการยืนยันความแข็งแกร่งของพันธมิตร และการร่วมมือในประเด็นจีน
ทาคะอิชิประกาศยกระดับพันธมิตรไปสู่ “ความร่วมมือเชิงโครงสร้าง” ที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์สูงสุด
โมเดลใหม่คือการผสาน ความมั่นคง + เศรษฐกิจ เข้าด้วยกัน เช่น
- สหรัฐฯ ให้เทคโนโลยีด้านความมั่นคง (เช่น ดาวเทียม, AI เพื่อการป้องกันประเทศ เป็นต้น)
- ญี่ปุ่นตอบแทนด้วยการลงทุน ซัพพลายเชน และพลังงาน
กลายเป็น “ธุรกิจพันธมิตร” ที่แข่งขันและร่วมมือไปพร้อมกัน
4. เศรษฐกิจความมั่นคง (Economic Security)
- เป็นหัวใจของการประชุมครั้งนี้ โดยรวมอยู่ในแพ็กเกจการลงทุนกว่า 5,500 พันล้านดอลลาร์
- ครอบคลุมพลังงาน AI แร่ธาตุสำคัญ และการลดการพึ่งพาประเทศหรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง
- แนวคิดนี้เริ่มตั้งแต่ยุคอาเบะ และถูกพัฒนาต่อในรัฐบาลทาคะอิชิให้เป็น “มาตรฐานการทูตญี่ปุ่น”
5. ข้อดีและความเสี่ยง
- ญี่ปุ่น: ได้เสริมพลังรอบด้าน (เศรษฐกิจ เทคโนโลยี การทูต) แต่เสี่ยงต่อภาระงบประมาณและความแข็งตัวของนโยบาย
- สหรัฐฯ: ได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความได้เปรียบต่อจีน แต่เสี่ยงต่อการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจและการลดความยืดหยุ่นทางการทูต #anipod anipod.info Source: business+IT
※※※🌲🌲※※※🌲🌲 ※※※🌲🌲※※※🌲🌲
รัฐบาลทาคะอิชิพยายามสร้างโมเดลใหม่ที่ผสาน “America First” และ “Japan First” เข้าด้วยกัน โดยเปลี่ยนจากการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แบบเดิม ไปสู่ พันธมิตรเชิงธุรกิจที่เท่าเทียม ซึ่งรวมทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ จุดมุ่งหมายคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและมั่นคง แต่ก็ต้องเผชิญความเสี่ยงด้านงบประมาณ การเมือง และการแบ่งขั้วระหว่างประเทศ.
หัวข้อหลักของรัฐบาลทาคะอิชิ และแกนกลางของการประชุมญี่ปุ่น–สหรัฐฯ ครั้งนี้คือ “เศรษฐกิจความมั่นคง” ซึ่งหมายถึงการสร้างความมั่นคงของประเทศหรือภูมิภาคจากมุมมองทางเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายสำคัญ เช่น
- ลดการพึ่งพาประเทศหรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง
- เสริมความแข็งแกร่งของ ซัพพลายเชน เพื่อให้มั่นใจในความต่อเนื่องของการจัดหาวัตถุดิบสำคัญ
- ปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การสื่อสารและการเงิน
- พัฒนาและป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีขั้นสูงที่อาจนำไปใช้ทางทหาร
- รับมือกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากต่างประเทศ
อ่านเพิ่ม
ตลาดการเงินญี่ปุ่นสัปดาห์ที่ผ่านมา “3 ทรัพย์สินร่วงพร้อมกัน” -นักลงทุนกังวลมาตรการเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรีทาคะอิชิ (17-21พ.ย.)
เจาะหุ้นรายตัว [20 พ.ย. นิคเคอิ ]
#TOPIX #Nvidia #AI #StockMarket #Investment #Bubble #TechStocks #WallStreet #ROI #FinanceUpdate #หุ้นเทค #การเงินการลงทุน
#JapanEconomy #sanae #Yen #ค่าเงิน #StockMarket #เศรษฐกิจโลก #ญี่ปุ่น #การลงทุน #หุ้นต่างประเทศ #Nikkei # นิกเกอิ #นิคเคอิ #anipod#anipod.info
Post a comment
Sign in with Google to post a comment
Cameron Williamson
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.
Rahabi Khan
Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Suspendisse lobortis cursus lacinia. Vestibulum vitae leo id diam pellentesque ornare.
Rahabi Khan
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.