สหรัฐ..เตรียมให้อำนาจ..ทรัมป์..ใช้ภาษีตอบโต้ได้เต็มที่
[ 30 พ.ค.2025 รอยเตอร์] ร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีที่กำลังพิจารณาในรัฐสภาสหรัฐฯ นั้น..รวมไปถึง“ข้อกำหนดที่จะให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ” ในการเพิ่มอัตราภาษีแบบตอบโต้” หากบริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในสหรัฐฯ..เพื่อเป็นมาตรการตอบโต้รัฐบาลต่างประเทศที่เรียกเก็บภาษีดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ สหรัฐฯ เช่น Amazon และ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google)
กฎหมายดังกล่าวเพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรอย่างเฉียดฉิว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในวุฒิสภา
โดยทั่วไป อำนาจกำหนดภาษีอยู่ในมือของสภาคองเกรส ไม่ใช่ประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม แม้สมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนจะไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้คัดค้านมาตรการตอบโต้ภาษีดิจิทัล เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจกับระบบภาษีที่ประเทศอื่นๆ กำหนด
หากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ คาดว่าในช่วง 10 ปีข้างหน้า สหรัฐฯ จะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น 1,160 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่ามาตรการนี้อาจทำให้การลงทุนจากต่างชาติในสหรัฐฯ ลดลง
ขณะนี้ 17 ประเทศในยุโรปได้ใช้มาตรการจัดเก็บภาษีดิจิทัลกับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram ของ Meta หรือมีการประกาศว่ามีแผนดำเนินการดังกล่าว
ล่าสุด..เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เยอรมนีได้เปิดเผยว่ากำลังพิจารณาเก็บภาษี 10% สำหรับบริการค้นหาของ Google และแพลตฟอร์มไอทีอื่นๆ
ในสหรัฐฯ มาตรา 899 ของร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีให้อำนาจแก่กระทรวงการคลังในการพิจารณาว่าภาษีดิจิทัลจากต่างประเทศเป็น "ไม่เป็นธรรม" ต่อบริษัทอเมริกันหรือไม่ หากพบว่ามีการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ประเทศที่กำหนดภาษีดังกล่าวอาจถูกเพิ่มลงใน "รายชื่อประเทศที่มีการเลือกปฏิบัติต่อธุรกิจสหรัฐฯ" ซึ่งอาจส่งผลให้สหรัฐฯ ตรวจสอบระบบภาษีอื่นๆ ของประเทศนั้นด้วย
หากประเทศใดถูกบรรจุอยู่ในรายชื่อดังกล่าว อัตราภาษีสำหรับบุคคลและบริษัทจากประเทศนั้นที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ อาจถูกปรับเพิ่มขึ้นทุกปี และอาจสูงสุดถึง 20% ถือเป็นการตอบโต้ภาษีดิจิทัลของต่างประเทศที่อาจมีผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
ร่างกฎหมายระบุว่า รายได้จากดอกเบี้ยของการลงทุนทางอ้อมในสหรัฐฯ (Portfolio Interest) จะยังคงได้รับการยกเว้นภาษี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติหลีกเลี่ยงการลงทุนในสหรัฐฯ
ดันแคน ฮาร์เดล จากศูนย์กฎหมายภาษีแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กระบุว่า นักลงทุนต่างชาติอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุน โดยถอนเงินออกจากสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงภาระภาษีที่อาจเกิดขึ้น นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทยังกังวลว่ามาตรการนี้อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเกี่ยวกับเงินทุนจากต่างชาติ
แม้ว่าร่างกฎหมายจะให้อำนาจกระทรวงการคลังในการกำหนดรายชื่อประเทศที่ใช้ภาษีดิจิทัลอย่างไม่เป็นธรรมต่อบริษัทสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระทรวงการคลังจะใช้มาตรการนี้จริงหรือไม่ หรือเพียงใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาทางการค้าเพื่อให้ประเทศต่างๆ ทบทวนการเก็บภาษีดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ
Post a comment
Sign in with Google to post a comment
Cameron Williamson
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.
Rahabi Khan
Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Suspendisse lobortis cursus lacinia. Vestibulum vitae leo id diam pellentesque ornare.
Rahabi Khan
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.