AI จะเป็น..อัศวินม้าขาว? หรือว่า..จะเป็นตัวทำลายโลก..#โลกกระจก #โลกร้อน
เมื่อวานนี้ได้เห็นข่าวๆหนึ่ง ประกอบกับข่าวในช่วงสองสามปีมานี้ มีเหตุการณ์ที่ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า..โลกใบนี้..จะยังคงอยู่ในสภาพที่สิ่งมีชีวิต..จะดำรงอาศัย..อยู่ได้ไปอีกกี่ปี..คือข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าในสหรัฐฯ ซึ่งก็เห็นมีข่าวมาตั้งแต่ปีที่แล้วๆ..แต่เที่ยวนี้..ค่อนข้างจะอลังการ..อยู่..
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่สหรัฐฯ..เกิดควันไฟพุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งถ้าดูแค่ภาพนี่..ไม่คิดล่ะว่า..เกิดจากไฟไหม้ป่า..นึกว่า..เกิดภูเขาไฟระเบิด..
เห็นข่าวแล้ว..ก็รู้สึกว่า..สภาวะของธรรมชาติ..ตกอยู่ในสภาวะ..ที่อันตราย..จริงๆ..เสียแล้ว
และตั้งแต่ต้นปีมานี้..ที่เกิดภาวะ..AI Boom..นี่..ทุกประเทศ..วิ่งเข้าหา AI หมด ไม่เว้นแม้แต่ยุโรป..ที่เป็นผู้นำในการปกป้องสิ่งแวดล้อม..ดั่งคำว่า..” อุดมคติ..กินไม่ได้..“
ผู้เขียน..ไม่ได้ต่อต้านการใช้ AI แต่อย่างใด..และจริงๆแล้ว..เป็นลูกค้าที่เหนียวแน่น..มาก..ด้วยซ้ำไป..
ด้วยการพัฒนาของ AI ..โลกกำลังเปลี่ยนหน้าตาไปโดยสิ้นเชิง
เราอาจจะกังวลกันว่า AI จะเก่งเกินไปและมาแย่งงานของคนไปหมด..
แต่..ถ้าดูจากผลการประกอบการของบริษัทหลายๆแห่ง..ที่ออกมาดี..จากผลกระทบในทางบวกจากการขยายตัวของความต้องการ AI ..ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว..สะท้อนให้เห็นว่า.. AI มีส่วนสร้างงานให้เพิ่มมากขึ้น มีการปรับปรุง สร้างนวัตนกรรมทางเทคโนโลยี่ใหม่ๆ หลังจากที่ได้หยุดมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง..
ในช่วงที่ผ่านมาคือ..ช่วงของอุตสาหกรรมหนักที่มีตลาดยานยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ตามด้วยตลาดความต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์และล่าสุดคือมือถือ smart phone..ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้..พ้นช่วงพีคของการเติบโตแล้ว..เป็นตลาดอิ่มตัวแล้ว..ยังทำกำไรอยู่..แต่อัตราการเติบโตเริ่มเสมอตัว..หรือลดลง
การที่บริษัทดังกล่าวจะเติบโตขึ้นไปได้อีก..อาจจะต้องไฮบริจด์กับ AI อย่างที่เราเห็นว่าเริ่มมีแท็กซี่ไร้คนขับ..เป็นต้น
โลกเรากำลังเปลี่ยนไป..แบบที่เราหมุนติ้วเลย..ใครจะเคยคิดว่า..เราจะสามารถมองเห็นรายละเอียดบนดวงจันทร์ได้อย่างชัดเจน..แค่เพียงดู..ผ่านมือถือ
ใครจะเคยคิดว่า.,เราจะสามารถมองเห็นได้อย่างละเอียดว่า..ใต้ทะเลลึก..มีหน้าตาเป็นอย่างไร
ใครจะเคยคิดว่า..ณ วันนี้..เราสามารถรู้ได้ว่า..องค์ประกอบภายใต้พื้นดินของโลกใบนี้..เป็นอย่างไร
ใครจะเคยคิดว่า..ไม่แต่เพียงแค่ใต้ทะเลลึก..หรือใต้พื้นพิภพ..เราสามารถมองลึกไปได้..แม้กระทั่ง..ใต้พื้นพิภพของทุกๆดวงดาว..ในจักรวาลนี้..ทำให้เรารู้ว่า..ดาวดวงไหน..มีแร่ธาตุ..อะไรอยู่มาก..เช่นใต้พื้นพิภพโลกของเรา ประกอบไปด้วยเหล็กและซิลิโคน เป็นหลัก ในขณะที่ดาวพฤหัสประกอบไปด้วย ไฮโดรเจน (H₂) ~75–86%
ฮีเลียม (He) ~14–25%
ทั้งหมดนี้เป็นผลสืบเนื่องจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ในหลายๆด้าน รวมทั้ง AI
ที่เป็นห่วงคือ..AI กินไฟและใช้น้ำเยอะ..มากกกก..ในขณะที่..โลกร้อน..ขึ้นทุกวัน..น้ำในเขื่อน..ลดลงมาก (จน..น่าเป็นห่วง“การเกษตร”..ว่าจะรอดหรือเปล่า?)
แล้วไฟฟ้านี่..ผลิตได้หลายวิธีก็จริง..แต่วิธีผลิต..หลักๆ..ในปัจจุบันยังอาศัย..พลังงาน..ที่ได้จาก..การเผาผลาญน้ำมันปิโตรเลียม..(ซึ่ง..เป็นที่รู้กันอยู่ว่า..เป็นตัวการ..ทำให้เกิดภาวะ..“โลกกระจก”..)
แถมหลังๆนี่..มีภูเขาไฟระเบิด..ที่อินโดนีเชีย ตามด้วยรัสเซีย..ยังไม่นับการปล่อยขีปนาวุธ หรือการปล่อยจรวดขึ้นไปสำรวจอวกาศ..ที่ล้วนแล้วแต่..เป็นการทำลาย”ชั้นบรรยากาศ“..ที่ปกคลุมและคุ้มครองโลก..(ด้วยการกรองหรือสะท้อนรังสีอันตราย..ที่มาจากดวงอาทิตย์..กลับออกไป)
ชั้นบรรยากาศที่ว่านี้..หลังๆ..บางลงเยอะ..(ยังไม่นับ..บริเวณที่เป็น“รู”) ..ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก..ที่ทำให้..แสงจากดวงอาทิตย์..ลงมาถึงโลก..ได้เลยอย่างเต็มที่..โลก..จึงร้อน..ขึ้น..ทุกวัน
สรุป
ต้องวอน..ฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่..ไม่ใช่ในประเทศเท่านั้นนะ..แต่ต้องเป็นระดับโลก..เพราะ..การแก้ปัญหาชั้นบรรยากาศ..นี่..แก้ยาก
ที่ผ่านมา..พยายามกันมา..หลายปีล่ะ..ยังไม่ได้ผล..เลย
ไม่ได้บอกให้แอนตี้ AI นะ..แต่อยากให้เน้นเทคโนโลยี่..ที่ช่วยลดการกินไฟและ..ใช้วิธีอื่น..ในการหล่อเลี้ยงคอมฯ..ให้เย็น (อย่าใช้“น้ำ”)..ซึ่งก็แอบเห็นอยู่ล่ะ..ว่ามีอยู่หลายบริษัท..ที่เน้นทางนี้
คนเยอะ โลกก็เลยมีหลายปัญหา…😅แต่การที่คนเยอะ..ก็แปลว่า..เรามี..อัศวินม้าขาว..เยอะด้วย..เหมือนกัน
#anipod anipod.info
หมายเหตุ ควันไฟดังกล่าว เกิดจากไฟป่ารุนแรงในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ที่เริ่มมาเป็นเดือนแล้ว..แต่ยังไม่สามารถดับไฟได้..โดยมีรายละเอียดดังนี้:
จุดเกิดไฟป่า
- Dragon Bravo Fire
- เกิดขึ้นบริเวณขอบเหนือของอุทยาน
- เริ่มจากฟ้าผ่าเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม (วันชาติสหรัฐฯ)
- เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 14,000 ไร่
- ทำลายสิ่งปลูกสร้างกว่า 80 แห่ง รวมถึง Grand Canyon Lodge ที่พักเก่าแก่ในอุทยาน
- เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนและนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่
- ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้
- White Sage Fire
- ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม หลังพายุฝนฟ้าคะนอง
- เผาผลาญพื้นที่ใน Kaibab National Forest ไปแล้วกว่า 100,000 ไร่
- อพยพประชาชนหลายร้อยคน
- ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้เช่นกัน
ผลกระทบ
- ปิดเส้นทางเดินป่าและลานกางเต็นท์ทั้งหมด
- มีรายงาน แก๊สคลอรีนรั่วไหล จากโรงงานบำบัดน้ำในพื้นที่
- ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
Post a comment
Sign in with Google to post a comment
2 comments
All Rights Reserved © 2025
Cameron Williamson
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.
Rahabi Khan
Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Suspendisse lobortis cursus lacinia. Vestibulum vitae leo id diam pellentesque ornare.
Rahabi Khan
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.