จีนประณาม“เรือรบสหรัฐฯ -อังกฤษ”แล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน  ยั่วยุ..『สันติภาพ』

[ 12 ก.ย. 2025 ] กองทัพจีนได้ออกแถลงการณ์ประณามการที่เรือรบของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน โดยระบุว่าเป็นการยั่วยุและสร้างปัญหา พร้อมสั่งให้กองทัพเรือและอากาศของจีนติดตามและเตือนเรือทั้งสองลำ

กองบัญชาการเขตตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ไต้หวัน ระบุว่า เรือพิฆาตติดขีปนาวุธของสหรัฐฯ ชื่อ “ฮิกกินส์” และเรือฟริเกต “ริชมอนด์” ของกองเรือบรรทุกเครื่องบินอังกฤษ ได้ดำเนินการที่เป็นการส่งสัญญาณผิดและบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
ด้านกระทรวงกลาโหมอังกฤษชี้แจงว่าการเดินเรือครั้งนี้เป็นการเดินทางตามปกติ ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ ยังไม่ได้ตอบรับคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที
 anipod.info  #anipod

🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲

ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ที่เรือรบสหรัฐฯ และอังกฤษแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน และจีนตอบโต้ด้วยการประณามและส่งกำลังติดตาม อาจเกิดขึ้นในหลายระดับ ดังนี้:

ความผันผวนในตลาดการเงิน
  • นักลงทุนทั่วโลกอาจเกิดความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่งผลให้ตลาดหุ้นในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และแม้แต่สหรัฐฯ เกิดแรงขาย
  • ค่าเงินหยวนและดอลลาร์ไต้หวันอาจอ่อนค่าลง หากสถานการณ์บานปลาย
ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
  • ช่องแคบไต้หวันเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์จากไต้หวัน
  • หากเกิดการปิดกั้นหรือความไม่มั่นคงในเส้นทางนี้ อาจทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น และกระทบต่อการผลิตทั่วโลก
ความไม่แน่นอนด้านการลงทุน
  • นักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนในไต้หวันหรือจีน เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
  • บริษัทเทคโนโลยีที่พึ่งพาการผลิตในภูมิภาคนี้ เช่น Apple, TSMC, หรือ Intel อาจต้องพิจารณากระจายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น
การค้าระหว่างประเทศ
  • หากจีนตอบโต้ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ เช่น การจำกัดการนำเข้าสินค้าจากอังกฤษหรือสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศ
  • ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนกับประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบในระยะยาว
ความเสี่ยงด้านนโยบายเศรษฐกิจ
  • รัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องอาจต้องปรับนโยบายการเงินและการคลังเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน เช่น การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ หรือการลดดอกเบี้ย

หากสถานการณ์ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง ผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจลุกลามไปสู่ระดับโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการผลิตขั้นสูงที่พึ่งพาไต้หวันเป็นศูนย์กลาง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ 
 anipod.info  #anipod

🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่อ่อนไหวต่อความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญและอยู่ใกล้กับศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกอย่าง TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) การที่จีนตอบโต้การเดินเรือของสหรัฐฯ และอังกฤษจึงอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนี้ในหลายด้าน:

ความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทาน
  • TSMC และผู้ผลิตในไต้หวัน อาจเผชิญกับความไม่แน่นอนในการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป หากจีนเพิ่มการควบคุมหรือซ้อมรบในช่องแคบ
  • บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก เช่น Apple, NVIDIA, AMD ที่พึ่งพาชิปจากไต้หวัน อาจต้องเผชิญกับความล่าช้าในการผลิตหรือจัดส่ง
การกระจายฐานการผลิต
  • ความตึงเครียดอาจเร่งให้บริษัทต่างชาติ ย้ายฐานการผลิตออกจากไต้หวัน ไปยังประเทศอื่น เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น หรืออินเดีย เพื่อกระจายความเสี่ยง
  • ตัวอย่างเช่น TSMC กำลังลงทุนสร้างโรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ และคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อรองรับความไม่แน่นอนนี้
ความผันผวนของราคาชิป
  • หากเกิดการหยุดชะงักในการผลิตหรือขนส่ง ราคาชิปอาจพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะชิปขั้นสูงที่ผลิตได้เฉพาะในไต้หวัน
  • อุตสาหกรรมที่ใช้ชิปจำนวนมาก เช่น ยานยนต์ โทรคมนาคม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
การแทรกแซงของรัฐบาล
  • รัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตรอาจออกมาตรการสนับสนุนการผลิตชิปในประเทศ เช่น CHIPS Act ของสหรัฐฯ ที่ให้เงินสนับสนุนแก่ผู้ผลิต
  • จีนอาจตอบโต้ด้วยการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ เพื่อพึ่งพาตนเองมากขึ้น
ความเสี่ยงด้านการจารกรรมและความมั่นคง
  • ความตึงเครียดอาจนำไปสู่การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในโรงงานผลิตชิป และการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง
  • สหรัฐฯ อาจเข้มงวดมากขึ้นในการจำกัดการส่งออกเครื่องจักรผลิตชิปไปยังจีน
โดยสรุป ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันไม่เพียงแต่เป็นประเด็นทางการเมือง แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก ซึ่งเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสมัยใหม่

TSMC ไม่เพียงแต่เป็นบริษัทเทคโนโลยี แต่ยังเป็น “หมากสำคัญ” ในเกมการเมืองระหว่างประเทศ ความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องแคบไต้หวันจึงส่งผลกระทบต่อ TSMC ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจ ความมั่นคง และภาพลักษณ์ระดับโลก
 anipod.info  #anipod

🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲

บริษัทคู่แข่งของ TSMC ทั้ง Samsung และ Intel ต่างได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันเช่นกัน แต่ในลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่ของความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ

สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันเป็น “ดาบสองคม” สำหรับคู่แข่งของ TSMC คือเป็นทั้งภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของอุตสาหกรรม และก็เป็นโอกาสในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจาก TSMC หากสามารถเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและขยายกำลังผลิตได้ทันเวลา.

ผลกระทบต่อ Samsung Electronics
ความเสี่ยง
  • ห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกับไต้หวัน: แม้ Samsung จะมีโรงงานผลิตชิปในเกาหลีใต้ แต่ยังพึ่งพาวัตถุดิบและเครื่องจักรจากไต้หวันและญี่ปุ่น หากเกิดความขัดแย้ง อาจกระทบต่อการผลิตชิปขั้นสูง
  • การแข่งขันด้านเทคโนโลยี: TSMC ยังนำหน้า Samsung ในการผลิตชิประดับ 3 นาโนเมตร ซึ่ง Samsung พยายามไล่ตามอย่างหนัก
โอกาส
  • ดึงดูดลูกค้าใหม่: หากลูกค้ากังวลเรื่องความเสี่ยงในไต้หวัน อาจหันมาใช้บริการผลิตชิปจาก Samsung แทน TSMC
  • การสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีใต้: เกาหลีใต้มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างเข้มข้น เช่น การลดภาษีและเงินลงทุนในโครงการ “K-Chip Strategy”
ผลกระทบต่อ Intel
ความเสี่ยง
  • การแข่งขันกับ TSMC ที่ยังห่างชั้น: Intel ยังตามหลัง TSMC ในด้านเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูง เช่น 3 นาโนเมตร และยังพึ่งพา TSMC ในการผลิตบางส่วน
  • ความไม่แน่นอนด้านการลงทุน: Intel ลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ และยุโรป แต่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ
โอกาส
  • การสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ: Intel ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในรัฐโอไฮโอและแอริโซนา ซึ่งช่วยลดการพึ่งพา TSMC
  • การกลับมาของบริการ Foundry: Intel พยายามเปิดบริการรับผลิตชิปให้บริษัทอื่น (เหมือน TSMC) เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดในระยะยาว
สรุปเปรียบเทียบ
บริษัท
ความเสี่ยงหลัก
โอกาสสำคัญ
Samsung
การพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากไต้หวัน
ดึงดูดลูกค้าจาก TSMC
Intel
ตามหลัง TSMC ด้านเทคโนโลยี
ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act
 anipod.info  #anipod

🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲⁂🌲

การแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่าง Samsung และ Intel ที่ต่างพยายามไล่ตาม TSMC ซึ่งครองตลาดการผลิตชิปขั้นสูงอยู่ในปัจจุบัน

🇰🇷 Samsung: ผู้ท้าชิงที่ใกล้เคียงที่สุด
จุดแข็ง
  • มีเทคโนโลยีการผลิตระดับ 3 นาโนเมตรแล้ว และเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ก่อน TSMC (แม้จะยังมีข้อจำกัดด้าน yield หรืออัตราการผลิตที่ได้ผล)
  • มีโรงงานในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้และสหรัฐฯ (เท็กซัส) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
  • มีธุรกิจหน่วยความจำ (DRAM, NAND) ที่เสริมรายได้และช่วยลงทุนใน R&D ได้ต่อเนื่อง
ข้อจำกัด
  • ยังตามหลัง TSMC ในด้าน ความน่าเชื่อถือของบริการ Foundry โดยเฉพาะเรื่อง yield และความสัมพันธ์กับลูกค้า
  • ลูกค้ารายใหญ่ เช่น Apple ยังไม่เลือก Samsung เป็นผู้ผลิตชิปหลัก

🇺🇸 Intel: ผู้เล่นที่กลับมาใหม่
จุดแข็ง
  • ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานใหม่และพัฒนาเทคโนโลยี
  • มีแผนเปิดบริการ Intel Foundry Services (IFS) เพื่อแข่งขันกับ TSMC โดยตรง
  • มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบชิปและสถาปัตยกรรม x86 ที่ยังครองตลาดพีซีและเซิร์ฟเวอร์
ข้อจำกัด
  • ยังไม่มีเทคโนโลยีการผลิตระดับ 3 นาโนเมตรในเชิงพาณิชย์ และยังต้องพึ่ง TSMC ในการผลิตบางส่วน
  • การเปลี่ยนผ่านจากผู้ผลิตชิปของตนเองไปสู่บริการ Foundry ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
🔍 สรุปเปรียบเทียบ
ปัจจัย
Samsung
Intel
เทคโนโลยีการผลิต
มี 3 นาโนเมตรแล้ว
ยังอยู่ในช่วงพัฒนา
ความพร้อมด้านโรงงาน
มีโรงงานในหลายประเทศ
กำลังสร้างโรงงานใหม่
ความสัมพันธ์ลูกค้า
ยังตามหลัง TSMC
ยังไม่มีฐานลูกค้า Foundry
การสนับสนุนรัฐ
ได้รับจากเกาหลีใต้
ได้รับจากสหรัฐฯ (CHIPS Act)
Samsung มีโอกาสแซง TSMC ได้ก่อน Intel ในแง่ของเทคโนโลยีการผลิตและความพร้อมเชิงพาณิชย์ แต่ยังต้องพิสูจน์ความน่าเชื่อถือในบริการ Foundry และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าระดับโลกให้ได้มากขึ้น
ส่วน Intel แม้จะมีแรงสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างแข็งแกร่ง แต่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างฐานลูกค้าใหม่
 anipod.info  #anipod

Post a comment

Sign in with Google to post a comment

2 comments

  • Author Images
    Cameron Williamson
    Nov 23, 2018 at 12:23 pm

    Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.

    • Author Images
      Rahabi Khan
      Nov 23, 2018 at 12:23 pm

      Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Suspendisse lobortis cursus lacinia. Vestibulum vitae leo id diam pellentesque ornare.

  • Author Images
    Rahabi Khan
    Nov 23, 2018 at 12:23 pm

    Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.