นอร์เวย์ ประเทศที่รัฐ ทำให้ทุกคน มีเงินตั้งแต่เกิด 10 ล้านบาท /โดย ลงทุนแมน

- ปี 2003 เฉลี่ยคนนอร์เวย์ 1 คน มีความมั่งคั่ง 1.3 ล้านบาท 
- ปี 2023 เฉลี่ยคนนอร์เวย์ 1 คน มีความมั่งคั่ง 10.4 ล้านบาท
ผ่านไป 20 ปี ความมั่งคั่งเฉลี่ยต่อคน ของชาวนอร์เวย์เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า ซึ่งความมั่งคั่งนี้ ไม่ได้นับรวมทรัพย์สินส่วนตัว..
แต่เป็นส่วนแบ่งทรัพย์สินของชาวนอร์เวย์ทุกคน จากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
โดยผลตอบแทนที่ได้ จะไม่ได้อยู่ในรูปของเงินสด แต่ชาวนอร์เวย์ทุกคน จะได้รับเป็นสวัสดิการชั้นเลิศ ที่ดูแลตั้งแต่เกิดจนตาย ให้กับแต่ละคนแทน
รัฐบาลนอร์เวย์ ทำอย่างไร ถึงทำให้ประชาชนทุกคน มีความมั่งคั่งถึง 10 ล้านบาท ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง 
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในอดีต นอร์เวย์เป็นประเทศที่ชายฝั่งทะเลยาว เต็มไปด้วยภูเขา ธารน้ำแข็ง และมีพื้นที่ทำการเกษตรได้เพียง 2% หรือ 7,704 ตร.กม. ซึ่งเท่ากับพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมกันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะปลูกพืชได้นิดเดียว แต่ธรรมชาติก็ให้สมบัติล้ำค่าอย่างอื่นมาทดแทน นั่นคือ ลม แม่น้ำ ทะเล และป่าไม้
ด้วยเหตุผลที่นอร์เวย์ติดทะเลยาว ทำให้อุตสาหกรรมประมงของนอร์เวย์มีความเชี่ยวชาญสูง โดยเฉพาะปลาแซลมอน ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ส่วนป่าไม้ ก็ทำให้นอร์เวย์มีวัตถุดิบในการต่อเรือ
และยิ่งในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม ถ่านไม้จากนอร์เวย์ กลายเป็นสินค้าส่งออกหลักที่สำคัญเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ชายฝั่งทะเลที่ยาว ทำให้นอร์เวย์มีลมที่แรงและพัดผ่านตลอดปี บวกกับมีแม่น้ำที่เกิดจากภูเขาจำนวนมาก ทำให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากลมและน้ำได้อย่างเต็มที่
ซึ่งปัจจุบัน ไฟฟ้าจากนอร์เวย์ มาจากพลังงานทดแทนแทบทั้งหมด แบ่งเป็น
- 88% พลังงานน้ำ
- 10% พลังงานลม
- 2% พลังงานความร้อน
แต่ทรัพยากรที่สร้างความมั่งคั่งให้กับชาวนอร์เวย์ จริง ๆ แล้วก็ไม่ต่างกับประเทศอื่นทั่วโลก นั่นก็คือ “น้ำมัน”
โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นจากหน่วยวิจัยธรณีวิทยาของนอร์เวย์ ได้รายงานว่า มีความเป็นไปได้สูง ที่จะมีน้ำมันอยู่นอกชายฝั่งของนอร์เวย์
พอเป็นแบบนี้ ทำให้บรรดาบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เช่น ESSO ต่างต้องการเข้ามาสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในนอร์เวย์
ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลนอร์เวย์ทำในตอนนั้น คือ ไม่ได้เปิดให้สัมปทานตามปกติ แต่เพิ่มเงื่อนไขว่า ผู้ที่จะตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันในนอร์เวย์ ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีการขุดเจาะให้นอร์เวย์ด้วย
โดยเป็นเงื่อนไขเดียวกันกับการให้สัมปทานแก่บริษัทพลังงานข้ามชาติ ให้มาสร้างเขื่อนและกังหันลม ก่อนที่จะต้องส่งคืนให้กับรัฐบาลในอีก 50-70 ปีตามมา
และหลังจากนั้น รัฐบาลนอร์เวย์ ก็ได้ตั้งบริษัทน้ำมันของตัวเองชื่อว่า Statoil ขึ้นมา เพื่อดูแลผลประโยชน์สัมปทานน้ำมัน และทำธุรกิจพลังงานไปพร้อมกัน
แต่ต่อมา Statoil ก็โฟกัสแค่ธุรกิจพลังงานอย่างเดียว จนกระทั่งบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์และเปลี่ยนชื่อเป็น Equinor ซึ่งรัฐบาลนอร์เวย์ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกว่า 67%

ส่วนผลประโยชน์สัมปทานน้ำมัน รัฐบาลนอร์เวย์ก็ตั้ง State’s Direct Financial Interest ขึ้นมา เพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะแทน
แต่ถึงแม้น้ำมันจะทำให้ร่ำรวย แต่ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ จากราคาน้ำมันที่อาจมีแนวโน้มตกต่ำลง
โดยตอนนั้นนอร์เวย์พึ่งพาทรัพยากรน้ำมันมากเกินไป 
ซึ่งคิดเป็น 35% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และมีส่วนแบ่งใน GDP ประเทศกว่า 15% เลยทีเดียว
ทำให้รัฐบาลนอร์เวย์ ตัดสินใจก่อตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ขึ้นในปี 1990 ซึ่งถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กองทุนน้ำมันแห่งชาติ
สาเหตุเพราะเงินส่วนใหญ่ในกองทุนนี้ มาจากส่วนแบ่งสัมปทาน ภาษี และค่าธรรมเนียมจากน้ำมัน ที่เก็บจากบริษัทน้ำมัน ที่เข้ามาขุดเจาะในประเทศ และเงินปันผลจาก Equinor บริษัทพลังงานแห่งชาตินอร์เวย์
โดยกองทุนนี้ ก็จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนในหุ้นทั่วโลกกว่า 9,000 บริษัท ในสัดส่วน 70% ของเงินทุนทั้งหมด
อย่างเช่น Microsoft, Apple, Alphabet, Meta รวมไปถึงหุ้นในอุตสาหกรรมชิป เช่น Nvidia, TSMC, ASML
หรือแม้แต่ประเทศไทยเอง ที่กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินอร์เวย์ ก็ได้เข้ามาลงทุนเช่นกัน โดยใช้บริการจากบริษัทจัดการกองทุนผ่าน 3 บริษัท คือ Krungsri Asset Management, TISCO Asset Management และ Talis Asset Management
ส่วนอีก 30% เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ หุ้นกู้ เงินฝาก รวมถึงอสังหาริมทรัพย์
โดยผลตอบแทนที่ได้ จะถูกแบ่งออกไปใช้จ่ายในด้านสวัสดิการของคนในประเทศ และช่วยสนับสนุนเป็นงบประมาณภาครัฐในแต่ละปีอีกด้วย
แล้วที่ผ่านมา กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินอร์เวย์ เติบโตดีแค่ไหน ?
- ปี 1996 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อยู่ที่ 6,700 ล้านบาท
- ปี 2023 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อยู่ที่ 56,855,200 ล้านบาท
เรียกได้ว่า เติบโตมากถึง 8,485 เท่า ภายในระยะเวลาไม่ถึงชั่วอายุคนเท่านั้น
ซึ่งเหตุผลก็มาจากผลตอบแทนที่งอกเงย จากการไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ และเงินส่วนเกินจากรายได้น้ำมันที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะคนนอร์เวย์ไม่ได้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากน้ำมันอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ยุโรปตัดขาดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย และกลายเป็นนอร์เวย์ ที่มีก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก แต่ไม่ได้ใช้ จึงสามารถส่งออกไปยังประเทศยุโรปเพิ่มขึ้น
ซึ่งหากนำมูลค่าของกองทุน มาหารด้วยจำนวนประชากรนอร์เวย์ ที่มีจำนวนเพียง 5.4 ล้านคน
ก็จะเท่ากับว่าคนนอร์เวย์ทุกคน ไม่ว่าจะเด็กแรกเกิด วัยรุ่นหนุ่มสาว วัยทำงาน หรือคนชรา จะมีความมั่งคั่งที่ได้จากรัฐ ติดตัวถึง 10 ล้านบาท
โดยได้รับผลประโยชน์จากกองทุนในรูปของสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเช่น สวัสดิการเพื่อรองรับสังคมสูงวัย โดยที่ไม่เป็นภาระทางการคลังของชาติ
หรือก็คือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินอร์เวย์ สามารถดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนอร์เวย์ ได้ตั้งแต่เกิด ไปจนตาย..
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman

Post a comment

Sign in with Google to post a comment

2 comments

  • Author Images
    Cameron Williamson
    Nov 23, 2018 at 12:23 pm

    Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.

    • Author Images
      Rahabi Khan
      Nov 23, 2018 at 12:23 pm

      Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Suspendisse lobortis cursus lacinia. Vestibulum vitae leo id diam pellentesque ornare.

  • Author Images
    Rahabi Khan
    Nov 23, 2018 at 12:23 pm

    Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.

Instagram