สรุปย่อจาก.. “รายงาน Bank of England(BOE )”
- เราได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 4.25%
- ความคืบหน้าในการลดแรงกดดันของเงินเฟ้อทำให้เราสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกครั้ง
- เงินเฟ้อกำลังมีเส้นทางที่ไม่ราบรื่น มันจะเพิ่มขึ้นชั่วคราวในปีนี้ก่อนที่จะกลับมาที่เป้าหมาย 2%
- การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
- เพื่อให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ เราจะพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยได้ไกลและเร็วเพียงใด
สรุปนโยบายการเงิน
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ได้กำหนดนโยบายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน
MPC ใช้แนวทางระยะกลางและพิจารณาแนวโน้มในอนาคตเพื่อกำหนดจุดยืนนโยบายที่สอดคล้องกับการลดเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน
ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 MPC มีมติด้วยคะแนนเสียง 5-4 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยธนาคารลง 0.25 จุดเปอร์เซ็นต์ เหลือ 4.25% โดยมีสมาชิก 2 คนสนับสนุนการลดลง 0.5 จุดเปอร์เซ็นต์ และอีก 2 คนต้องการคงอัตราไว้ที่ 4.5%
มีความคืบหน้ามากในการลดอัตราเงินเฟ้อตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของผลกระทบจากภายนอก(External Chock)และนโยบายที่เข้มงวดที่ช่วยควบคุมผลกระทบระลอกที่สอง ทั้งนี้ GDP ของสหราชอาณาจักรมีการชะลอตัวลงตั้งแต่กลางปี 2024 และตลาดแรงงานยังคงติดลบ
แม้เงินเฟ้อได้ลดลง โดยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI )รายปีในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 2.6% เทียบกับ 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ราคาพลังงานในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้ CPI สูงถึง 3.5% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2025 ก่อนจะลดลงในภายหลัง
ขณะที่ความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นำไปสู่ความผันผวนในตลาดการเงิน และแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยให้ลดต่ำลง แม้ว่าอังกฤษจะได้รับผลกระทบน้อย จากนโยบายภาษีศุลกากร ก็ตาม
คณะกรรมการยังคงมุ่งมั่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้าหมายในระยะกลาง โดยพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อทั้งปัจจัยภายในประเทศ และสถานการณ์อื่น ๆ ในวงกว้างขึ้น ที่อาจทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทิศทางของนโยบาย
รายงาน The May Report ได้จำลอง 2 สถานการณ์ ดังนี้:
1. กรณีที่อุปทานอ่อนแอลง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและราคาภายในประเทศ คงอยู่อย่างต่อเนื่อง อันเกิดจากผลกระทบทางอ้อมจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในระยะสั้น
2. ในอีกสถานการณ์หนึ่ง ความกดดันด้านเงินเฟ้ออาจลดลงอย่างรวดเร็วกว่าเดิม เนื่องจากการอ่อนแอของอุปสงค์เมื่อเทียบกับอุปทานที่มากขึ้นหรือยาวนานกว่า สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนทั้งในระดับโลกและภายในประเทศ
นโยบายการเงินไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า คณะกรรมการจะนำความไม่แน่นอนในสภาพเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น มาพิจารณา ในการปรับการประเมินความเสี่ยงตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการลงมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยธนาคารลงสู่ระดับ 4.25% ซึ่งสะท้อนถึงความคืบหน้าในการลดภาวะเงินเฟ้อ แต่กระนั้น ก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อในทั้งสองสถานการณ์
จากมุมมองของคณะกรรมการเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะกลาง การถอนนโยบายการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไปและระมัดระวัง ยังคงเหมาะสม
คณะกรรมการจะติดตามความเสี่ยงของเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานรวมในเศรษฐกิจ
นโยบายการเงินจะต้องยังคงเข้มงวดต่อไปเป็นระยะเวลานานเพียงพอ จนกว่าความเสี่ยงของเงินเฟ้อ กลับเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% อย่างยั่งยืนในระยะกลาง
คณะกรรมการจะตัดสินใจระดับความเข้มงวดที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน ในการประชุมแต่ละครั้ง..ต่อไป
Cameron Williamson
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.
Rahabi Khan
Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Suspendisse lobortis cursus lacinia. Vestibulum vitae leo id diam pellentesque ornare.
Rahabi Khan
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.