หุ้น•พันธบัตร ทรงตัว ทองคำ•น้ำมันดิบ..ลดลง ในขณะที่บิทคอยน์..พุ่งแรง
[ 22 พ.ค.2025 รอยเตอร์]
<อัตราแลกเปลี่ยน> ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกันค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง จากข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ออกมาทางลบ ราคาบิทคอยน์ยังพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนมองหาทางเลือกอื่น มาแทนที่สินทรัพย์สหรัฐฯ
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้อนุมัติร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณที่เสนอโดยประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงมาตรการลดภาษีขนาดใหญ่ และยื่นส่งต่อให้วุฒิสภาฯ พิจารณา..ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมไปถึงการเพิ่มงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายทางการทหารและการรักษาความปลอดภัยชายแดน
ในการซื้อขายช่วงสุดท้าย ค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินเยนปรับเพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 143.75 เยน หลังจากที่เคยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 วันที่ 142.80 เยน แต่กลับฟื้นตัวขึ้น
ส่วนค่าเงินยูโรเทียบกับดอลลาร์ลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 1.1293 ดอลลาร์ จากรายงานดัชนี PMI ของยูโรโซนในเดือนพฤษภาคมซึ่งรวบรวมโดย S&P Global ที่ลดลงมาอยู่ที่ 49.5 ต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ 50 ซึ่งแสดงถึงสถานการณ์ที่เศรษฐกิจย่ำแย่ลง
แม้ว่าข้อมูล PMI ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 52.1 จะสะท้อนถึงการฟื้นตัวหลังจากการพักรบในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน..ก็ตาม อัตราราคาผู้บริโภคกลับสูงขึ้น ด้วยผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์
เอริค เบรเกอร์ ผู้อำนวยการด้านการจัดการความเสี่ยง FX และโลหะมีค่า จาก Silver Gold Bull กล่าวว่า “การผ่านร่างกฎหมายลดภาษีมีส่วนช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” โดยเห็นว่า PMI ที่ดีกว่าที่คาด..มีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงนี้
นอกจากนี้ ราคาบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.4% ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 111,965.62 ดอลลาร์ จากการที่นักลงทุนหันมาให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นทางเลือกแทนทรัพย์สินดั้งเดิม โดย ฮินา ซาทาร์ โจชี ผู้อำนวยการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลจาก TP ICAP ระบุว่า กระแสเงินทุนที่เข้าสู่บิทคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในจิตวิทยาการลงทุนอย่างชัดเจน
<พันธบัตร> ในช่วงเริ่มต้นวันทำการ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือน แต่กลับปรับตัวลดลงในภายหลัง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มทางการเงินของสหรัฐฯ
ในเช้าวันที่ 22 สภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติร่างกฎหมายลดภาษีครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มหนี้สินรัฐบาลกลางหลายล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นในช่วงต้นวัน ก่อนจะถูกกดดัน..จากนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่า
การประมูลพันธบัตรอายุ 10 ปี มูลค่า 18 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียวกันนั้น แสดงถึงความต้องการในระดับปานกลาง โดยอัตราผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ 2.22% สูงกว่าก่อนการประมูล 0.5 เบสิสพอยต์
นายวอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า“ หากภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์ลดระดับต่ำลง เฟดอาจพิจารณาการลดอัตราดอกเบี้ยลง”และตลาดฟิวเจอร์สคาดการณ์ว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ลดลง 1.9 เบสิสพอยต์ มาอยู่ที่ 3.999% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นดัชนีหลัก..ลดลง 4.6 เบสิสพอยต์ มาอยู่ที่ 4.551% โดยช่วงหนึ่งเคยแตะระดับสูงสุดในรอบตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ 4.629%
ส่วนส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปี แคบลง 3 เบสิสพอยต์ เหลือ 55 เบสิสพอยต์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ลดลง 2.6 เบสิสพอยต์ มาอยู่ที่ 5.063% โดยช่วงหนึ่งเคยขึ้นไปถึง 5.161% ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม ปี 2023 ที่ 5.179%
<หุ้น•พันธบัตร> ท่ามกลางความผันผวน ตลาดหุ้น ทรงตัว เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงิน ในช่วงที่ผ่านมา เริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลให้แรงกดดันในตลาดหุ้นเบาบางลง
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณซึ่งมีมาตรการลดภาษีขนาดใหญ่ที่เสนอโดยประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ในตลาดพันธบัตร มีความกังวลว่าหนี้สินของรัฐบาลกลางอาจเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย ก่อนจะปรับตัวลดลงภายหลัง
ดัชนี S&P 500 และ Dow Jones อยู่ในภาวะทรงตัว ขณะที่ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนยังคงจับตาผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ที่อาจส่งผลต่อดัชนีราคาผู้บริโภคในอนาคต
ดัชนีหลัก3ตัวนี้ ตกลงเป็นอย่างมากในวันก่อนหน้า เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จอร์จ ยัง พันธมิตรและผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอจากบริษัท Villere & Co. ระบุว่าปัญหาในวันนี้เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายลดภาษี “แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่า คือนโยบายภาษีศุลกากรและอัตราดอกเบี้ย” ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่าตลาดไม่ชอบความไม่แน่นอน “ทั้งภาษีศุลกากรและตลาดพันธบัตรยังคงเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจ”
ในดัชนี S&P 500 จากทั้งหมด 11 กลุ่มอุตสาหกรรม มี 8 กลุ่มที่ราคาลดลง โดยกลุ่มที่นำการลดลงได้แก่ สาธารณูปโภค การดูแลสุขภาพ พลังงาน และสินค้าจำเป็น ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ สินค้าฟุ่มเฟือย บริการสื่อสาร และเทคโนโลยีข้อมูล
หุ้นกลุ่มเติบโตขนาดใหญ่ เช่น NVIDIA, Amazon.com และ Tesla ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย Alphabet เพิ่มขึ้น 1.3% และแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ส่วนหุ้น Apple ลดลง 0.36%
ราคาหุ้นบริษัท Snowflake ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลบนระบบคลาวด์ พุ่งขึ้นกว่า 13% หลังจากปรับประมาณการยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับปีบัญชี 2026 เพิ่มขึ้น
ในขณะที่ Analog Devices ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ราคาหุ้นกลับลดลง 4.6% แม้ผลประกอบการไตรมาสจะดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
บริษัทในกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น First Solar ราคาหุ้นลดลง 4.3% เนื่องจากมีข่าวว่าร่างกฎหมายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อาจยุติการสนับสนุนเงินอุดหนุนพลังงานสีเขียว
<ราคาทองคำ•น้ำมันดิบ> ราคาทองคำฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ทำให้ราคาทองคำดูแพงขึ้น ราคาปิดของสัญญาทองคำเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 3,295.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 0.56%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI สัญญาเดือนกรกฎาคมยังคงลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากความกังวลเรื่องการผลิตล้นตลาดทั่วโลก ราคาปิดอยู่ที่ 61.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.37 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ส่วนสัญญาเดือนสิงหาคมลดลง 0.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
————————————————#anipod.info #BooJapan
Post a comment
Sign in with Google to post a comment
Cameron Williamson
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.
Rahabi Khan
Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Suspendisse lobortis cursus lacinia. Vestibulum vitae leo id diam pellentesque ornare.
Rahabi Khan
Duis hendrerit velit scelerisque felis tempus, id porta libero venenatis. Nulla facilisi. Phasellus viverra magna commodo dui lacinia tempus. Donec malesuada nunc non dui posuere, fringilla vestibulum urna mollis. Integer condimentum ac sapien quis maximus.